การพัฒนาสมองด้วยเสต็มในระดับอนุบาลหรือปฐมวัยSTEM
สอนอะไร
วิทยาศาสตร์ คือวิธีการคิด
วิทยาศาสตร์คือ การสังเกต การทดลองการทา นายล่วงหน้าการแบ่งปันข้อมูลและสิ่งที่ค้นพบ ถามคำ ถาม และสงสัยว่า สิ่งต่างๆทำงานอย่างไรเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกบัธรรมชาติและสิ่งที่เกิดข้ึนตามธรรมชาติรอบตัวเราเทคโนโลยีคือวิธีของการกระทำเทคโนโลยีคือการใช้เครื่องมือริเริ่ม บ่งชี้ปัญหา รู้ปัญหาและทำให้สิ่งต่างๆทำงานได้วิศวกรรมศาสตร์เป็นวิธีการกระทำวศิวกรรมศาสตร์คือการแก้ปัญหาโดยใช้สื่อวัสดุต่างๆหลากหลายออกแบบและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆที่ใช้การได้เพื่อแก้ปัญหา ทำให้ดีขึ้นคณิตศาสตร์เป็นวิธีการคิด คณิตศาสตร์คือการจัดเรียงลำดับ (1,2,3,4...) patterning (เกี่ยวกับการทำ pattern เช่น 1, 2, 1, 2, 1, 2... )เป็นการสำรวจรูปร่างรูปทรงต่างๆ ( สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม ปิรามิด ลูกบาศก์ทรงกลม ฯลฯ) ปริมาณและปริมาตร(ใส่ได้มากขึ้นหรือน้อยลง)และขนาด(ใหญ่กว่าน้อยกว่า ) เป็นต้นความแตกต่างระหว่างการเรียนรู้วิชาการและการเรียนรู้เพื่อ เสริมสร้างสติปัญญาDr. Lilian Katz กับการศึกษาปฐมวัยผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งของโลกได้กล่าวไว้ว่าการจัดเรียนรู้ให้เด็กนั้น สำคัญมากที่จะทำความเข้าใจถึงความแตกต่างในการจัดการเรียนรู้ระหว่างการเรียนรู้วิชาการและการเรียนรู้อย่างเสริมสร้างปัญญา4
การเรียนรู้ทางวิชาการ"ตามคำจากความคือสิ่งที่ชัดเจนเช่นพยญัชนะเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้การคิดหาเหตุผลอะไร เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความจำ เท่านั้น ...และเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ในที่สุด" (Lilian Katz on Bam Radio)การเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างปัญญา "เป็นการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้เหตุให้ผลการตั้งสมมุติฐาน การคาดคะเนการใช้ทฤษฎีหรือกำหนดทฤษฎีเป็นต้น และสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของการเรียนรู้ของเด็ก" (Lilian Katz on Bam Radio)ดังน้ันวิธีที่เราควรจะจัดการเรียนรู้ให้เด็กคือ การให้เด็กเรียนรู้วิชาการผ่านการเรียนรู้ที่เสริมสติปัญญาตามธรรมชาติของเด็ก เช่นเมื่อเด็กมาบอกว่า ทำให้ดูหน่อยว่าดียังไง หรือจะเขียนบอกอย่างน้ันอย่างนี้อย่างไรเพราะเด็กได้ทำการสำรวจสืบค้นมาอันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของเด็กแล้วครูแนะนำเด็กให้ทำตามต้องการเช่นบอกให้ช่วยกัน วัดหรือเขียนตามคำบอกของเด็กที่ตอ้งการบันทึกสิ่งที่ค้นพบ สิ่งที่สร้างสรรค์หรือเขียนตามที่เด็กบอก ต้องการเขียน แลว้ให้เด็กลอกตาม ก็จะเป็นการสอนด้านวิชาการผ่านการเรียนรู้โดยใช้ธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กที่ใช้สติปัญญา
การใช้คำถาม
เด็กอนุบาลจะถามคำถามตลอดเวลาเมื่อเด็กๆกา ลงสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัว เช่น เมฆมาจากไหน ทำไม
น้ำแข็งละลาย ทำไมลูกบอลกลิ้งไปตรงนั้น ซึ่งการถามเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของเด็กทุกคน ครูต้องฟังเด็กให้มากใชคำถามกระตุ้น ให้เด็กคิดมากขึ้นอย่างเป็นระบบ ครูไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเด็กทุกคา ถามแต่ควรถามคำถามดีๆไปพร้อมกับเด็กๆ และถามให้เด็กคิดว่าจะไปสืบค้นหาคำตอบได้ที่ไหนอย่างไรได้บ้างแล้วนำพาสู่การสำรวจสืบค้นครูเองก็อาจจะไม่ทราบทุกคำตอบถึงทราบก็ไม่แน่ว่าจะถูกต้องหรือไม่แค่ไหน ดังนั้น จึงควรชักชวนเด็กให้สามารถคิดที่จะสืบค้นสำรวจให้เวลาเด็กได้ทำ กิจกรรมต่างๆเพื่อเรียนรู้ด้วยตนเองให้มากถ้าครูทราบครูรู้ไปเสียทุกอย่าง เด็กก็แค่ถามครูและไม่เรียนรู้ด้วยตนเอง แต่ครูควรถามให้เด็กคิดและฝึกการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ช่วยจัดสื่ออุปกรณ์ที่เด็กต้องการ จัดหาผู้เชี่ยวชาญให้เด็กได้ถามและพาเด็กไปสถานที่ที่เด็กสามารถพบคำตอบและนำข้อมูลมาแก้ปัญหาเองได้ครูให้เวลาเพียงพอกับเด็กที่จะลองผิดลองถูกได้ด้วยตนเองโดยไม่คิดว่าทำอะไรผิดกระตุ้นใหเ้ด็กๆมีความมานะที่จะทำจนสำเร็จและพึงพอใจ
การใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า
การสำรวจโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าช่วยให้เด็กๆเสริมสร้างทักษะการสังเกตว่าอะไรเป็นอย่างไรและเกิดอะไรขึ้น และสามารถใช้คำในการอธิบายว่ารับรู้อะไรและรู้สึกอย่างไร เมื่อเด็กๆได้เรียนรู้ด้วยการใช้
ประสาทสัมผัสท้ังห้าจะทำให้เซลล์ประสาทแตกแยกสาขาและเชื่อมโยงกันมากขึ้น และทำให้สามารถจา ได้นานข้ึนประสาทสัมผสัท้งัห้าเป็นวิธีการที่เด็กใช้สำรวจเรียนรู้และเข้าใจข้อมูลใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สัมผัสทั้งห้าได้แก่การได้เห็น ได้ฟังได้ดมกลิ่น ได้ลิ้มรส และได้สัมผัสจับต้อง
ที่มา http://www.kukai.ac.th/Thai/doc/STEM-Education.pdf
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น